ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจประมวลรัษฎากร และนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ความแตกต่างของภาษีเงินได้หัก ณ ทีจ่าย ตาม มาตรา 70 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ในส่วนของค่าจ้างทำของ

บทความวันที่ 24 ก.ย. 2561  .  เขียนโดย อจ.สุเทพ  .  เข้าชม 21219 ครั้ง

ความแตกต่างของภาษีเงินได้หัก ณ ทีจ่าย ตาม

มาตรา 70 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ในส่วนของค่าจ้างทำของ


ปุจฉา: บริษัทไทยได้จ่ายค่าจ้างบริหารหรือค่าจ้างทำของตามมาตรา 40 (8) ให้แก่บริษัทต่างประเทศ (สิงคโปร์) ซึ่งไม่มีตัวแทนหรือสาขาในประเทศไทยแต่อย่างใด โดยบริษัทต่างชาติได้มีการให้บริการแก่บริษัทไทยในประเทศไทยด้วยโดยบริษัทไทยได้นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มโดยใช้แบบ ภ.พ.36 แต่ไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย เนื่องจากเข้าใจว่าไม่มีหน้าที่นำส่ง ขอเรียนถามว่า กรณีจ่ายค่าบริหารหรือค่าจ้างทำของ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตาม ท.ป. 4/2528 ข้อ 12 หรือไม่ และจะต้องใช้แบบ ภ.ง.ด.53 หรือแบบ ภ.ง.ด.54 ในการนำส่ง และในกรณีนี้บริษัทต่างประเทศจะได้รับยกเว้นเงินได้ตาม DTA ไทยกับสิงคโปร์ได้หรือไม่

ขอบคุณครับ

 

วิสัชนา:

ความแตกต่างของภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 70 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร กรณีจ่ายเงินได้จ้างทำของให้แก่บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ

ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

1. เป็นกฎหมายพิเศษ (Special Law) เมื่อเทียบกับมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร

2. เพราะบังคับใช้เฉพาะกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิตบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และมิได้ประกอบกิจการในประเทศ โดยได้รับเงินได้จากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ตามมาตรา 40 (2)(3)(4)(5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย

3. ผู้จ่ายเงินได้ที่มีหน้าทีหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ได้แก่ บุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นในภาคเอกชน รวมทั้้ง รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล องค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่น

4. ประเภทเงินได้พึงประเมินที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่ายในกรณีนี้ ได้แก่ เงินได้พึงประเมินจากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ตามมาตรา 40 (2)(3)(4)(5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย

5. อัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยทั่วไปอัตรา 15% ของเงินได้ เว้นแต่เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรตามมาตรา 40 (4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตรา 10%

6. ผู้จ่ายเงินได้ต้องคำนึงถืงอนุสัญญาภาษีซ้อน (DTA) ที่ประเทศไทยได้กระทำกับประเทศอันเป็นถิ่นทีอยู่หรือสัญชาติของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศดังกล่าว ว่าตามอนุสัญญาภาษีซ้อนกำหนดยอมให้ประเทศไทยจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเงินได้พึงประเมินประเภทนั้นหรือไม่ 

7. แบบที่ใช้นำส่ง ได้แก่ ภ.ง.ด.54

8. กำหนดเวลานำส่ง ภายในวันที่เจ็ดของเดือนถัดจากเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน เว้นแต่ยื่นรายการทางอินเทอร์เน็ต จะได้รับการขยายเวลาออกไปอีก 8 วัน

9. ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากรนี้ ไม่ถือเป็นเครดิตภาษีของผู้มีเงินได้ หากผู้จ่ายเงินได้คำนวณหัก และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายในกรณีโดยถูกต้อง ก็เป็นอันพ้นจากความรับผิดร่วมกันตามมาตรา 54 แห่งประมวลรัษฎากร จึงได้ชื่อว่า เป็น "ภาษีเบ็ดเสร็จเด็ดขาด" (Final Tax) ผู้มีเงินได้ไม่มีหน้าทีต้องยื่นแบบแสดงรายการในประเทศไทยใดๆ อืก 

10. การขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ทีจ่าย ให้ขอคืนตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

 

ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร 

1. เป็นกฎหมายทั้่วไป (General Law) เมื่อเทียบกับมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

2. บังคับใช้กับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิตบุคคล ทั้งที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการในประเทศไทย โดยได้รับเงินได้จากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ตามมาตรา 40 (2) - (8) แห่งประมวลรัษฎากร

    ดังนั้น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิตบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการในประเทศไทย ตามมาตรา 66 มาตรา 66 วรรคสอง มาตรา 67 และมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และได้รับเงินได้จากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ตามมาตรา 40 (2) - (8) แห่งประมวลรัษฎากร จากผู้จ่ายเงินได้ตามข้อ 3 จึงจะถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในกรณีนี้

3. ผู้จ่ายเงินได้ที่มีหน้าทีหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

    3.1 กรณีค่าจ้างทำของทั่วไป ตามมาตรา 40 (7) - (8) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยมีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย ผู้จ่ายเงินได้ที่มีหน้าหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นในภาคเอกชน

    3.2 กรณีค่าจ้างทำของ ตามมาตรา 40 (7) - (8) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิตบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยไม่มีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย ผู้จ่ายเงินได้ที่มีหน้าหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ได้แก่ บุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นในภาคเอกชน 

4. ประเภทเงินได้พึงประเมินที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่ายในกรณีนี้ ได้แก่ เงินได้พึงประเมินจากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ตามมาตรา 40 (2) - (8) แห่งประมวลรัษฎากร โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นค่าจ้างทำของ

5. อัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

    5.1 กรณีค่าจ้างทำของทั่วไป ตามมาตรา 40 (7) - (8) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยมีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทยอัตรา 3% ของเงินได้

    5.2 กรณีค่าจ้างทำของ ตามมาตรา 40 (7) - (8) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยไม่มีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย ในอัตรา 5% ของเงินได้

6. ผู้จ่ายเงินได้ไม่ต้องคำนึงถืงอนุสัญญาภาษีซ้อน (DTA) ที่ประเทศไทยได้กระทำกับประเทศอันเป็นถิ่นที่อยู่หรือสัญชาติของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศดังกล่าว ให้คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ได้ทันที เนื่องจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ เข้ามาตั้งสาขาในการประกอบกิจการในประเทศไทย หรือมีกรณีอื่นที่ถือได้ว่า ครบองค์ประกอบของการมีสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย (P/E:Permanent Establishment)

7. แบบที่ใช้นำส่ง ได้แก่ ภ.ง.ด.53

8. กำหนดเวลานำส่ง ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดจากเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน เว้นแต่ยื่นรายการทางอินเทอร์เน็ต จะได้รับการขยายเวลาออกไปอีก 8 วัน

9. ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 นี้ กำหนดให้ถือเป็นเครดิตภาษีของผู้มีเงินได้ ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร

10. การขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ทีจ่าย ให้ขอคืนตามมาตรา 63 แห่งประมวลรัษฎากร

 

ตารางสรุปความแตกต่างของภาษีเงินได้หัก ณ ทีจ่าย ตาม

มาตรา 70 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร

  • รายการ

ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย

ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร

1. ประเภทกฎหมาย

กฎหมายพิเศษ (Special Law)

กฎหมายทั่วไป (General Law)

2. บังคับใช้กับบริษัทหรือห้าง หุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของ ตปท.

ที่ประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยไม่มีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย

ที่ประกอบกิจการในประเทศไทย  ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทยหรือไม่ก็ตาม

3. ผู้จ่ายเงินได้ที่มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

บุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นในภาคเอกชน รวมทั้้ง รัฐบาล องค์การของรัฐบาล เทศบาล องค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่น

(1) กรณีประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยมีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นในภาคเอกชน

(2) กรณีประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยไม่มีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย ได้แก่ บุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นในภาคเอกชน

4. ประเภทเงินได้พึงประเมินที่ต้องคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ทีจ่าย

เงินได้พึงประเมินจากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย

เงินได้พึงประเมินจากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย ตามมาตรา 40 (2) - (8) แห่งประมวลรัษฎากร โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นค่าจ้างทำของ

5. อัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

โดยทั่วไปอัตรา 15% ของเงินได้ เว้นแต่เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรตามมาตรา 40 (4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตรา 10%

(1) กรณีประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยมีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย อัตรา 3.0% ของเงินได้

(2) กรณีประกอบกิจการในประเทศไทย  โดยไม่มีสถานประกอบการสาขาเป็นการถาวรในประเทศไทย อัตรา 5% ของเงินได้

6. การคำนึงถืงอนุสัญญาภาษีซ้อน (DTA)

ผู้จ่ายเงินได้ต้องคำนึงถืงอนุสัญญาภาษีซ้อน (DTA) อย่างมาก

ผู้จ่ายเงินได้ไม่ต้องคำนึงถืงอนุสัญญาภาษีซ้อน (DTA) เนื่องจากผู้รับจ้างประกอบกิจการในเทศไทย (ก้าวพ้น DTA มาแล้ว)   

7. แบบที่ใช้นำส่ง

ภ.ง.ด.54

ภ.ง.ด.53

8. กำหนดเวลานำส่ง

ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดจากเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน เว้นแต่ยื่นรายการทางอินเทอร์เน็ต จะได้รับการขยายเวลาออกไปอีก 8 วัน

เช่นเดียวกัน

9. การถือเป็นเครดิตภาษีของผู้มีเงินได้

Final Tax ไม่ถือเป็นเครดิตภาษีตามประมวลรัษฎากรของผู้มีเงินได้

ถือเป็นเครดิตภาษีตามประมวลรัษฎากรของผู้มีเงินได้ ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร

10. การขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ทีจ่าย

มาตรา 27 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

มาตรา 63 แห่งประมวลรัษฎากร

 

 

    ดังนั้น กรณีบริษัทไทยได้จ่ายค่าจ้างบริหารหรือค่าจ้างทำของตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งไม่มีตัวแทนหรือสาขาในประเทศไทยแต่อย่างใด โดยบริษัทต่างชาติได้มีการให้บริการแก่บริษัทไทยในประเทศไทยด้วย บริษัทไทยได้นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มโดยใช้แบบ ภ.พ.36 โดยไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร และนำส่งตามแบบ ภ.ง.ด.54 เนื่องจากเนื่องจากผู้มีเงินได้มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย และเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่อยู่ในบังคับทีต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทในประเทศสิงคโปร์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย เพราะไม่มีสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย จึงได้รับยกเว้นเงินได้ตาม DTA ไทยกับสิงค์โปร์