ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจประมวลรัษฎากร และนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
สุเทพ พงษ์พิทักษ์

จัดสัมมนาในเมืองรองหักรายจ่ายได้สองเท่า

บทความวันที่ 10 พ.ย. 2561  .  เขียนโดย อจ.สุเทพ  .  เข้าชม 2108 ครั้ง

                                                     จัดสัมมนาในเมืองรองหักรายจ่ายได้สองเท่า

 

รัฐบาลได้ตราพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 656) พ.ศ. 2561 กำหนดให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้จัดการอบรมสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถลูกจ้างของตน และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกิจการของตนภายในประเทศในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิทางภาษีอากร ได้เป็นจำนวน 200ของรายจ่ายที่ในจัดการอบรมสัมมนา สําหรับรายจ่ายที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จ่ายไปในจัดการอบรมสัมมนาภายในประเทศในจังหวัดท่องเที่ยวรอง ในระหว่างปี พ.ศ. 2561 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรองภายในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น ในอันที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขดังต่อไปนี้

1. รายจ่ายในการอบรมสัมมนาที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จัดให้แก่ลูกจ้าง ณ ท้องที่ใดท้องที่หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใด ที่อธิบดีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 ถึงวันที่ 31  ธันวาคม พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ เฉพาะรายจ่ายดังต่อไปนี้

    (1) ค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาที่บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่าย

    (2) ค่าบริการที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนําเที่ยวและ มัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนา

    “รายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนา” หมายความถึง ค่าใช้จ่ายเพื่อการจัดการค่าวิทยากร และค่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการอบรมสัมมนา เช่น ค่าเอกสารประกอบการอบรม ค่าจ้าง ถ่ายเอกสาร ค่าบันทึกภาพและเสียง และค่าจัดทำสื่อที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรในการฝึกอบรม

2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดให้มีการอบรมสัมมนาบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ต้องจัดทำโครงการการอบรมสัมมนาโดยมีหลักฐานเอกสารประกอบโครงการ เพื่อประโยชน์ในการแสดงต่อเจ้าพนักงานประเมิน

3. รายจ่ายที่ได้จ่ายไปจัดการอบรมสัมมนา ต้องเป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด จะต้องเป็นกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว

4. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้จ่ายค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนานั้น จะต้องมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากนายทะเบียน

5. ค่าห้องสัมมนาหรือค่าห้องสัมมนาและห้องพัก ในการจัดอบรมสัมมนา หมายถึงเฉพาะการอบรมสัมมนาและห้องพักที่จัดขึ้นในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และให้หมายความรวมถึง ค่าใช้จ่ายที่ผู้ให้บริการห้องสัมมนาเรียกเก็บเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มจากการใช้ห้องสัมมนาตามปกติทางการค้า ทั้งนี้ ห้องสัมมนาและห้องพักอาจไม่อยู่ในสถานประกอบการเดียวกันก็ได้ แต่จะต้องเกี่ยวเนื่องกับการอบรมสัมมนาในคราวเดียวกันนั้

6. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องไม่ใช้สิทธิซ้ำซ้อนกับรายในการฝึกอบรมกให้แก่พนักงานของตนหรือของบริษัทในเครือเดียวกันตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 437) พ.ศ. 2548 

จังหวัดท่องเที่ยวรอง” หมายความว่า เขตจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกําแพงเพชร จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดตรัง จังหวัดตราด จังหวัดตาก จังหวัดนครนายก จังหวัดนครพนม จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดน่าน จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดปัตตานี จังหวัดพะเยา จังหวัดพัทลุง จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดแพร่ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยโสธร จังหวัดยะลา จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดระนอง จังหวัดราชบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดเลย จังหวัดลําปาง จังหวัดลําพูน จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสกลนคร จังหวัดสตูล จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลําภู จังหวัดอ่างทอง จังหวัดอํานาจเจริญ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดอุบลราชธานี 

นอกจากนี้ อธิบดีกรมสรรพากร ได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ลงวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 กำหนดเขตพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับการจัดอบรมสัมมนา และการเดินทางท่องเที่ยวและที่พักเพิ่มเติมจากจังหวัดท่องเที่ยวรองโดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามรายชื่อเขตพื้นที่ท่องเที่ยวดังต่อไปนี้ เป็นเขตพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับ 

(1) การอบรมสัมมนาที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจัดให้แก่ลูกจ้าง ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 656) พ.ศ. 2561 

(2) การเดินทางท่องเที่ยวและที่พัก ตามข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 335 (พ.ศ. 2561) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร 

โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

 

รายชื่อเขตพื้นที่ท่องเที่ยวโดยคำแนะนำของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับการจัดอบรมสัมมนา และการเดินทางท่องเที่ยวและที่พัก เพิ่มเติมจากจังหวัดท่องเที่ยวรอง

จังหวัดกระบี่                 อำเภอเขาพนม อำเภอปลายพระยา อำเภอลำทับ

จังหวัดกาญจนบุรี          อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอท่าม่วง อำเภอท่ามะกา อำเภอบ่อพลอย อำเภอพนมทวน อำเภอเลาขวัญ อำเภอหนองปรือ อำเภอห้วยกระเจา

จังหวัดขอนแก่น            อำเภอกระนวน อำเภอเขาสวนกวาง อำเภอโคกโพธิ์ไชย อำเภอชนบท อำเภอชุมแพ อำเภอซ าสูง อำเภอน้ำพอง อำเภอโนนศิลา อำเภอบ้านไผ่ อำเภอบ้านฝาง อำเภอบ้านแฮด อำเภอเปือยน้อยอำเภอพระยืน อำเภอพล อำเภอภูผาม่าน อำเภอภูเวียง อำเภอมัญจาคีรีอำเภอเวียงเก่า อำเภอแวงน้อย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอสีชมพู อำเภอหนองนาคำ อำเภอหนองเรือ อำเภอหนองสองห้อง อำเภออุบลรัตน์

จังหวัดฉะเชิงเทรา         อำเภอคลองเขื่อน อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอบางน้ าเปรี้ยว อำเภอแปลงยาว อำเภอราชสาส์น อำเภอสนามชัยเขต

จังหวัดชลบุรี                อำเภอเกาะจันทร์อำเภอบ่อทอง อำเภอบ้านบึง อำเภอพนัสนิคม อำเภอพานทอง อำเภอหนองใหญ่ 

จังหวัดเชียงใหม่           อำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอไชยปราการ อำเภอดอยเต่า อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอดอยหล่อ อำเภอพร้าว อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง อำเภอแม่วาง อำเภอแม่อายอำเภอเวียงแหง อำเภอสะเมิง อำเภอสันทราย อำเภอสันป่าตอง อำเภอสารภี อำเภออมก๋อย อำเภอฮอด  

จังหวัดนครราชสีมา        อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอขามทะเลสอ อำเภอขามสะแกแสง อำเภอคง อำเภอครบุรี อำเภอจักราช อำเภอเฉลิมพระเกียรติอำเภอชุมพวง อำเภอโชคชัย อำเภอด่านขุนทด อำเภอเทพารักษ์อำเภอโนนแดง อำเภอโนนไทย อำเภอโนนสูง อำเภอบัวลาย อำเภอบัวใหญ่ อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอประทาย อำเภอปักธงชัย อำเภอพระทองคำ อำเภอพิมาย อำเภอเมืองยาง อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอสีคิ้ว อำเภอสีดา อำเภอสูงเนิน อำเภอเสิงสาง อำเภอหนองบุญมาก อำเภอห้วยแถลง

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์    อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอกุยบุรีอำเภอทับสะแกอำเภอบางสะพาน อำเภอบางสะพานน้อย

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอบางซ้าย อำเภอบางบาล อำเภอบางปะหัน อำเภอบ้านแพรก อำเภอผักไห่ อำเภอภาชีอำเภอมหาราช อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอวังน้อย อำเภอเสนา อำเภออุทัย

จังหวัดพังงา                อำเภอเมืองพังงา อำเภอกะปง อำเภอคุระบุรีอำเภอทับปุด อำเภอท้ายเหมือง อำเภอเกาะยาว อำเภอตะกั่วทุ่ง

จังหวัดเพชรบุรี             อำเภอบ้านลาด อำเภอหนองหญ้าปล้อง

จังหวัดระยอง               อำเภอเขาชะเมา อำเภอนิคมพัฒนา อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง อำเภอปลวกแดง อำเภอวังจันทร์

จังหวัดสงขลา              อำเภอเมืองสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอควนเนียง อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวีอำเภอนาหม่อม อำเภอบางกล่ำ อำเภอระโนด อำเภอรัตภูมิอำเภอสทิงพระ อำเภอสะเดา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอสิงหนคร

จังหวัดสระบุรี               อำเภอแก่งคอย อำเภอเฉลิมพระเกียรติอำเภอดอนพุด อำเภอบ้านหมอ อำเภอวังม่วง อำเภอวิหารแดง อำเภอหนองแค อำเภอหนองแซง อำเภอหนองโดน

จังหวัดสุราษฎร์ธานี       อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีอำเภอกาญจนดิษฐ์อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอเคียนซา อำเภอชัยบุรีอำเภอไชยา อำเภอดอนสัก อำเภอท่าฉาง อำเภอท่าชนะ อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพระแสง อำเภอพุนพิน อำเภอวิภาวดีอำเภอเวียงสระ