ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจประมวลรัษฎากร และนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การลงหุ้นหรือลงทุนในกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย

บทความวันที่ 10 พ.ย. 2561  .  เขียนโดย อจ.สุเทพ  .  เข้าชม 2468 ครั้ง

การลงหุ้นหรือลงทุนในกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย

 

รัฐบาลได้ส่งเสริมให้มีการลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่นําเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการประกอบกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบกิจการให้กับผู้ประกอบการดังกล่าวในช่วงแรกของการเริ่มประกอบกิจการ โดย กําหนดให้ยกเว้นเงินได้พึงประเมินเท่าที่ผู้มีเงินได้ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาได้จ่ายเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวไม่ต้องนํามารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินหนึ่งแสนบาท สําหรับปีภาษีนั้น โดยออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 337 (พ.ศ. 2561) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

1. “กิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย” หมายความว่า กิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งใช้เทคโนโลยีหลักเป็นฐานในกระบวนการผลิตและการให้บริการตามหลักเกณฑ์ที่สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติกําหนด และได้รับการรับรองจากสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

     (1) อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร

     (2) อุตสาหกรรมเพื่อประหยัดพลังงาน ผลิตพลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด

     (3) อุตสาหกรรมฐานเทคโนโลยีชีวภาพ

     (4) อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข

     (5) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมบริการ และอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์

     (6) อุตสาหกรรมวัสดุก้าวหน้า

     (7) อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องประดับ

     (8) อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน

     (9) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และบริการสารสนเทศ

     (10) อุตสาหกรรมฐานการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม หรืออุตสาหกรรมใหม่

2. กําหนดให้เงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึง ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคลและกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ซึ่งได้จ่ายเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินหนึ่งแสนบาท สําหรับปีภาษีนั้น เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนํามารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

     (1) เป็นเงินที่ได้จ่ายเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

     (2) ผู้มีเงินได้ต้องถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่น้อยกว่าสองปีต่อเนื่องกันนับแต่วันที่ได้จ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น เว้นแต่ทุพพลภาพหรือตาย

     (3) เป็นการลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งมีคุณสมบัติและลักษณะตามข้อ 3  

     การได้รับยกเว้นดังกล่าว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 330) เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สําหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ลงวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

3. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนตามข้อ 2 ต้องมีคุณสมบัติและลักษณะดังต่อไปนี้

     (1) เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

     (2) เป็นกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีรายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการของกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือรายได้เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบของรายได้ทั้งหมดในรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น

     (3) มีทุนที่ชําระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาทในรอบระยะเวลาบัญชีที่ผู้มีเงินได้ลงทุนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น

4. ในกรณีที่ผู้มีเงินได้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กําหนดในข้อ 2 ในปีภาษีใด ให้สิทธิในการได้รับยกเว้นไม่ต้องนําเงินได้มารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้เป็นอันระงับไปเฉพาะในปีภาษีนั้น

 

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกอุตสาหกรรมเป้าหมา หรือให้มีการลงหุ้นหรือลงทุนซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่นําเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการประกอบกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบกิจการให้กับผู้ประกอบการดังกล่าว ไม่ต้องนํามารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินหนึ่งแสนบาท สําหรับปีภาษีนั้น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 330) ลงวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 ดังนี้

1. การยกเว้นภาษีเงินได้สําหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 337 (พ.ศ. 2561) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร กล่าวคือ (1) เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 และ (2) เป็นกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีรายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการของกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือรายได้เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบของรายได้ทั้งหมดในรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น และ (3) มีทุนที่ชําระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสามสิบล้านบาทในรอบระยะเวลาบัญชีที่ผู้มีเงินได้ลงทุนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินหนึ่งแสนนาท ผู้มีเงินได้ต้องมีเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

      (1) เอกสารสําเนาบัญชีรายชื้อผู้ถือหุ้นที่ขอจากกรมพัฒนาธุรกิจก้ารคา กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีชื่อของผู้มีเงินได้ปรากฏอยู่ในทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ทั้งนี้ สําหรับกรณีที่เป็นการถือหุ้นในบริษัทจํากัด

      (2) เอกสารหนังสือรับรองการจ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้

2. กรณีผู้มีเงินได้ได้จ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามจํานวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 100,000 บาท สําหรับปีภาษีนั้น ไปแล้ว แต่ต่อมา ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่อเนื่องกันจนครบกําหนดสองปีนับแต่วันที่จ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้ง หรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ให้ผู้มีเงินได้หมดสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้และต้องเสียภาษีเงินได้สําหรับปีภาษีที่ได้นําเงินลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไปหักออกจากเงินได้เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้นั้น พร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร

3. กรณีผู้มีเงินได้ได้จ่ายเงินเพื่อลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนขอกกงบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีคุณสมบัติและลักษณะเป็นไปตามข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 337 (พ.ศ. 2561) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ในรอบระยะเวลาบัญชีใดและได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้ว ต่อมาในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติและลักษณะไม่เป็นไปตามข้อ 3 (2) เป็นกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีรายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการของกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือรายได้เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบของรายได้ทั้งหมดในรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น หรือ (3) มีทุนที่ชําระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสามสิบล้านบาทในรอบระยะเวลาบัญชีที่ผู้มีเงินได้ลงทุนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น แห่งกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว

    ฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 3 อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร อนุมัติขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมให้แก่ผู้มีเงินได้ที่ได้นําเงินไปลงหุ้นหรือลงทุนในการจัดตั้งหรือเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว โดยให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมสําหรับปีภาษีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นั้น ภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดจากวันที่พ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลสําหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นมีคุณสมบัติและลักษณะไม่เป็นไปตามข้อ 3 (2) หรือ (3) แห่งกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร

4.  การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ ให้ผู้มีเงินได้นําเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ไปคํานวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อได้หักค่าใช้จ่ายตามมาตรา 42 ทวิ ถึงมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว