การบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)
บทความวันที่ 15 พ.ย. 2561 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 3615 ครั้ง
บทความวันที่ 15 พ.ย. 2561 . เขียนโดย อจ.สุเทพ . เข้าชม 3615 ครั้ง
การบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation)
กรมสรรพากรได้ออกประกาศกรมสรรพากร
เรื่อง การบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ลงวันที่ 9
พฤศจิกายน 2561 กำหนดให้ถือว่า ข้อมูลการบริจาคที่ปรากฏในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation) เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรของผู้บริจาค
โดยไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐานการบริจาคนั้นต่อเจ้าพนักงานประเมิน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่หน่วยรับบริจาคในการบันทึกข้อมูลการรับบริจาค
โดยไม่ต้องออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้บริจาค และผู้บริจาคสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาคไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา
47 (7) แห่งประมวลรัษฎากร หรือหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา
65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร หรือการยกเว้นภาษีเงินได้กรณีต่างๆ
ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร หรือการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา
42 (17) แห่งประมวลรัษฎากรได้ โดยไม่ต้องมีเอกสารหลักฐานการบริจาคให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ทังนี้ โดยให้ใช้บังคับสำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
1. “หน่วยรับบริจาค”
“ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)” และ “ธนาคาร”
“หน่วยรับบริจาค” หมายความว่า หน่วยรับบริจาคที่ผู้บริจาคได้รับสิทธิประโยชน์ ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
อาทิ
- สถานศึกษาของทางราชการหรือขององค์การของรัฐบาล
- สถานพยาลของทางราชการหรือองค์การของรัฐบาล
- สภากกาชาดไทย
- วัดวาอาราม
- มูลนิธิหรือสมาคมหรือกองทุนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนดให้เป็นองค์การสาธารณกุศลตามมาตรา
47 (7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร และและมาตรา 3 (4)(ข)
แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534
- สถานศึกษาที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
และสถานศึกษาที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาซึ่งคณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ
- ส่วนราชการที่รับบริจาคตามโครงการของทางราชการ
เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย
หรือภัยธรรมชาติในลักษณะทำนองเดียวกัน
- ส่วนราชการที่รับบริจาคตามโครงการของทางราชการ
เพื่อให้แก่สถานศึกษาของทางราชการ
สถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
หรือสถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
ที่รับบริจาคตามโครงการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย
หรือภัยธรรมชาติในลักษณะทำนองเดียวกัน
- กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
- กองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
- กองทุนคุ้มครองเด็กตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก
หรือ
- กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542
“ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)” หมายความว่า
ระบบที่ใช้สร้างและเก็บรักษาข้อมูลการบริจาคในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
“ธนาคาร” หมายความว่า
ธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
ซึ่งได้ทำบันทึกข้อตกลงการรับส่งข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation) กับกรมสรรพากร
2. เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค
หน่วยรับบริจาคต้องมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค
สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อรับบริจาค
หรือการลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th
ดังนี้
(1) หน่วยรับบริจาคที่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
ให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรนั้นเป็นเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค
(2) หน่วยรับบริจาคที่เป็นหน่วยงานในสังกัดของทางราชการ
องค์การของรัฐบาลสภากาชาดไทย หรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งมีและใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรหมายเลขเดียวกับหน่วยงานต้นสังกัด
ให้หน่วยรับบริจาคดังกล่าวยื่นคำขอมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาค
ตั้งอยู่
(3) หน่วยรับบริจาคอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน
(1) และ (2) ให้ยื่นคำขอมีและใช้เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่
เลขประจำตัวหน่วยรับบริจาคตาม
(2) และ (3) มิใช่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (ข้อ 2)
3. วิธีการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาค
วิธีที่ 1 การรับบริจาคผ่านธนาคารโดย
QR Code หรือ Bar Code ให้ปฏิบัติดังนี้ (ข้อ 3)
(1)
เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค และใช้ชื่อบัญชีหน่วยรับบริจาคเพื่อรับบริจาคโดย
QR Code หรือ Bar Code
(2) ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาคให้กรมสรรพากร
โดยกำหนดให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับริจาคให้กรมสรรพากรภายในสองวันทำการนับแต่วันที่หน่วยรับบริจาคได้รับบริจาค
ตามรูปแบบและวิธีการส่งข้อมูลการรับบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ที่ธนาคารได้ทำไว้กับกรมสรรพากร
วิธีที่ 2 การรับบริจาคโดยวิธีอื่นนอกจากตามวิธีที่
1 ให้ปฏิบัติดังนี้ (ข้อ 4)
(1)
ลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web
Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th โดยต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
(2)
หน่วยรับบริจาคโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคหรือผู้รับมอบอำนาจต้องมาแสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร
ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่หน่วยรับบริจาคตั้งอยู่
พร้อมเอกสารหลักฐานดังนี้
(ก) ใบลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ตาม (1) พร้อมลงลายมือชื่อของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค
(ข) สำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งหน่วยรับบริจาค
พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
(ค) สำเนาหนังสือการแต่งตั้งผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค
พร้อมลงลายมือชื่อรับรองส าเนาถูกต้อง
(ง) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาคพร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาแสดงตัวและยื่นเอกสารหลักฐานแทน
(3)
เมื่อหน่วยรับบริจาคได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) แล้ว หน่วยรับบริจาคจะได้รับชื่อผู้ใช้งาน (Username) ผ่านที่อยู่จดหมายเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ของหน่วยรับบริจาคที่ระบุไว้ในใบลงทะเบียนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation) และให้หน่วยรับบริจาคเป็นผู้กำหนดรหัสผ่าน (Password)
ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th เพื่อเข้าใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation)
(4)
ชื่อผู้ใช้งาน (Username)
และรหัสผ่าน (Password) เป็นหลักฐานแสดงการลงลายมือชื่อของหน่วยรับบริจาคในการใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร
http://www.rd.go.th หน่วยรับบริจาคต้องเก็บรักษาชื่อผู้ใช้งาน
(Username) และรหัสผ่าน (Password) ไว้เป็นความลับ
การระบุชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password)
เข้าใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ถือเป็นการยืนยันหน่วยรับบริจาคและรับรองข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
(5)
กรณีหน่วยรับบริจาคต้องการแก้ไขข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้เพื่อใช้ในการอ้างอิงหรือยืนยันหน่วยรับบริจาค
เช่น ชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยรับบริจาค
ที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) หมายเลขโทรศัพท์
ให้หน่วยรับบริจาคทำการแก้ไขข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)
ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th
การติดต่อหน่วยรับบริจาคไปยังที่อยู่
หมายเลขโทรศัพท์ หรือที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ที่กรมสรรพากรได้รับแจ้งไว้
ถือว่าเป็นการติดต่อโดยชอบจนกว่าจะได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ตามวรรคหนึ่ง
(6)
ให้หน่วยรับบริจาคทำการบันทึกและส่งข้อมูลการรับบริจาค ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation)
ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ในวันที่รับบริจาคหรือภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป โดยไม่ต้องออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาคให้ผู้บริจาค
เว้นแต่ผู้บริจาคจะร้องขอให้ออกเอกสารหลักฐานการรับบริจาค
4. การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
ผู้บริจาคที่มีความประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรให้ปฏิบัติดังนี้
(ข้อ 5)
(1)
กรณีบริจาคให้หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคผ่านธนาคารโดย QR Code หรือ
Bar Code ตามวิธีที่ 1 ให้ผู้บริจาคทำการสแกน QR Code
หรือ Bar Code ผ่าน Mobile Banking ซึ่งจะต้องปรากฏข้อความว่า “e-Donation
ชื่อและเลขประจำตัวหน่วยรับบริจาค” และ ระบุจำนวนเงินบริจาค
พร้อมแจ้งความประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากร
(2)
กรณีบริจาคให้หน่วยรับบริจาคที่รับบริจาคโดยวิธีอื่นตามวิธีที่ 2 ให้ผู้บริจาคแจ้งหน่วยรับบริจาคทำการบันทึก
ชื่อ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร จำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค
และวันเดือนปีที่บริจาค บนระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th
(3)
ตรวจสอบรายชื่อหน่วยรับบริจาคและข้อมูลการบริจาคของตน ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation)
ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th
ข้อมูลการบริจาคที่ปรากฏในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
(e-Donation)
ถือเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรของผู้บริจาค
โดยไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐานการบริจาคนั้นต่อเจ้าพนักงานประเมิน (ข้อ 6)