ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจประมวลรัษฎากร และนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
สุเทพ พงษ์พิทักษ์

การจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e -Tax Invoice by Email

บทความวันที่ 16 มี.ค. 2560  .  เขียนโดย อจ.สุเทพ  .  เข้าชม 3403 ครั้ง

การจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

ผ่านระบบ e -Tax Invoice by Email

 

กรมสรรพากรโดยความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.) ได้จัดทำระบบ e-Tax Invoice by  Email ขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทำ ส่งมอบและเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) โดยการประทับรับรองเวลา (Time Stamp) ผ่านระบบกลางของ สพธอ. ประกอบกับกรมสรรพากรได้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามโครงการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการบริการภาครัฐ โดยเฉพาะในด้านการจัดเก็บภาษีอากรให้สอดคล้องกับระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e- Payment) และเพื่อให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนสามารถจัดทำใบกำกับภาษีที่มีการจัดทำข้อความขึ้น   เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ก่อนที่จะมีการออกกฎหมายบังคับต่อไป

อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ประกอบมาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. 2549 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่มีการปฏิบัติงานตามกฎหมายที่แตกต่างเป็นการเฉพาะ     อาจกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติงานตามกฎหมายที่แตกต่างนั้นได้ โดยออกเป็นระเบียบ ทั้งนี้ โดยให้คำนึงถึงความถูกต้องครบถ้วน ความน่าเชื่อถือ สภาพความพร้อมใช้งาน และความมั่นคงปลอดภัยของระบบ  และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ อธิบดีกรมสรรพากรจึงออกระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e -Tax Invoice by Email พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 1 มีนาคม พ.. 2560 ไว้ โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป และให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้รักษาการตามระเบียบดังกล่าว (ข้อ 4) โดยจัดแบ่งเป็น 5 หมวดดังนี้

หมวด 1 การยื่นคำขอ (ข้อ 5 – ข้อ 10)

หมวด 2 การจัดทำและส่งมอบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (ข้อ 11 – ข้อ 20)

หมวด 3 การเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (ข้อ 21 – ข้อ 22)

หมวด 4 การเปลี่ยนแปลง การยกเลิก และการเพิกถอนการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (ข้อ 23 – ข้อ 25)

 

1. ข้อกำหนดเบื้องต้น

ในระเบียบกรมสรรพากรนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น (ข้อ 1)

ผู้ประกอบการจดทะเบียน หมายความว่า ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1 (6) แห่งประมวลรัษฎากร

ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หมายความว่า ใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้มีการประทับรับรองเวลาโดย สพธอ. และให้หมายความรวมถึง ใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้มีการประทับรับรองเวลาโดย สพธอ.

อิเล็กทรอนิกส์ หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอนไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือวิธีการอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่างๆ เช่นว่านั้น

ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หมายความว่า ข้อความที่ได้สร้าง ส่ง รับ เก็บรักษา หรือประมวลผลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หมายความว่า ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้จัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบนี้

ระบบ e-Tax Invoice by Email หมายความว่า การจัดทำใบกำกับภาษีที่มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่กรมสรรพากรอนุมัติให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนสามารถจัดทำโดยผ่านการประทับรับรองเวลาและจัดส่งไปยังผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email)

การประทับรับรองเวลา หมายความว่า วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ สพธอ. ได้กระทำต่อข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับรองความมีอยู่ของข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ณ ขณะที่มีการรับรอง และสามารถตรวจพบได้หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นับแต่เวลาที่ได้มีการรับรอง

สพธอ.หมายความว่า สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

แบบ ก..01หมายความว่า แบบคำขอจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบนี้

 

2. การยื่นคำขอ

2.1 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีความประสงค์จะจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email ยื่นคำขอต่ออธิบดีกรมสรรพากรผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร หรือโดยวิธีการอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ตามแบบ ก..01 ที่แนบท้ายระเบียบนี้ (ข้อ 5)

2.2 ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีสิทธิยื่นคำขอตามข้อ 2.1 ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (ข้อ 6)

      2.1.1 เป็นบุคคลธรรมดามีเงินได้พึงประเมินไม่เกินสามสิบล้านบาทต่อปีภาษี ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีภาษี 2558 เป็นต้นไป หรือเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีรายได้ต่อรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสามสิบล้านบาท ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.. 2558 เป็นต้นไป

      2.1.2 ต้องไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับอนุมัติหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติ            ให้จัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบ      กรมสรรพากร ว่าด้วยการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ พ.. 2555

      2.1.3 ไม่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร และไม่มีประวัติการออกหรือใช้ใบกำกับภาษีปลอม หรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

2.3 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ยื่นคำขอตามข้อ 5 จัดส่งเอกสารประกอบการพิจารณา     โดยวิธีการอัปโหลด (Upload) บนระบบที่กรมสรรพากรเปิดให้บริการ ดังต่อไปนี้ (ข้อ 7)

      2.3.1 แบบ ก..01 ที่ลงนามโดยผู้มีอำนาจ

      2.3.2 หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลที่นายทะเบียนออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันที่ อัปโหลด (Upload) หนังสือรับรอง

      2.3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามในแบบ กอ.01

      ในการยื่นคำขอ ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะต้องยอมรับและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในขั้นตอนการลงทะเบียนการขอใช้งานระบบ e-Tax Invoice by Email (ข้อ 8)

      เพื่อประโยชน์ในการยื่นคำขอ ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนยืนยันตัวตนผ่านที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ที่แจ้งไว้ในคำขอ และดำเนินการอัปโหลด (Upload) เอกสารตาม 2.3.1 2.3.2 และ 2.3.3 ภายใน 7 วันทำการนับแต่วันถัดจากที่บันทึกและส่งคำขอ

2.4 เมื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนได้รับอนุมัติชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจากระบบ e-Tax Invoice by Email แล้ว ให้ทำการแจ้งที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ที่ประสงค์จะใช้สำหรับการจัดทำ ส่งมอบและเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในระบบ e-Tax Invoice by Email

      การใช้ที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ที่ประสงค์จะใช้สำหรับการจัดทำ ส่งมอบและเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว จะต้องเป็นที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์     (Email Address) ที่มีความมั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ (ข้อ 9)

2.5 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ยื่นคำขอตาม 2.1 จัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email ได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร

      ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่ง     จะจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email คราวหนึ่งคราวใดที่มีการขายสินค้าหรือให้บริการก็ได้ (ข้อ 10)

 

3. การจัดทำและส่งมอบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

3.1 ให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหมวดนี้ (ข้อ 11)

3.2 การจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องจัดเตรียมข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีสาระสำคัญครบถ้วนตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร (ข้อ 12) โดยให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์บันทึกให้อยู่ในรูปของไฟล์ประเภท Microsoft Word (.doc, .docx), Microsoft Excel (.xls, .xlsx)  หรือ Portable Document Format (.pdf) เท่านั้น โดยหากเป็น PDF ประเภท PDF/A-3 ต้องประกอบด้วยข้อมูล xml ตามรูปแบบที่กำหนดในข้อเสนอแนะมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่จำเป็นต่อธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าด้วยข้อความอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการซื้อขายสินค้าและบริการที่ สพธอ. ประกาศกำหนด

      ห้ามมิให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ใช้วิธีการแปลงเอกสารและข้อความให้อยู่ในรูปของ  ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือนำสิ่งที่เกิดขึ้นจากการแปลงดังกล่าวมาใช้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในการจัดเตรียม  ข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์  

      การจัดเตรียมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.. 2561 เป็นต้นไป ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องบันทึกให้อยู่ในรูปของ PDF/A-3 เท่านั้น

3.3  ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ต้องส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จัดเตรียมตามข้อ 12      ผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ที่ได้แจ้งตามข้อ 9 โดยแนบไฟล์ข้อมูลดังกล่าวส่งไปยัง ที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ และที่อยู่จดหมาย   อิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) ของระบบ e-Tax Invoice by Email ที่กรมสรรพากรกำหนด เพื่อทำการประทับรับรองเวลาในคราวเดียวกัน (ข้อ 13)

3.4 การส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ 13 ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องระบุข้อความไว้ในชื่อเรื่องของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ที่ทำการจัดส่ง เป็นข้อมูลประกอบด้วย “[วันเดือนปีที่ออกใบกำกับภาษี] [INV] [เลขที่ใบกำกับภาษี]” (ข้อ 14)

3.5 เมื่อผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้ประทับรับรองเวลาจาก สพธอ. ซึ่งจัดส่งผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) แล้ว ให้ถือว่า ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้จัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการแล้ว  ให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่ติดตามและตรวจสอบการได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ประทับรับรองเวลาจาก สพธอ. แล้ว (ข้อ 15)

3.6 การจัดทำ ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้ ให้มีข้อความเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นี้ ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องจัดเตรียมข้อความ ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้ ขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีสาระสำคัญครบถ้วนตาม มาตรา 86/9 และมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร (ข้อ 16)

      ให้นำความตามข้อ 3.1 3.2 3.3 และ 3.5 มาใช้บังคับกับใบเพิ่มหนี้ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยอนุโลม

3.7 การส่งข้อมูลใบเพิ่มหนี้ ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องระบุข้อความ ไว้ในชื่อเรื่องของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ที่ทำการจัดส่ง เป็นข้อมูลประกอบด้วย “[วันเดือนปีที่ออกใบเพิ่มหนี้] [DBN] [เลขที่ใบเพิ่มหนี้] [เลขที่ใบกำกับภาษีเดิม](ข้อ 17)

3.8 การส่งข้อมูลใบลดหนี้ ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องระบุข้อความ ไว้ใน ชื่อเรื่องของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ที่ทำการจัดส่ง เป็นข้อมูลประกอบด้วย “[วันเดือนปีที่ออกใบลดหนี้] [CRN] [เลขที่ใบลดหนี้] [เลขที่ใบกำกับภาษีเดิม] (ข้อ 18)

3.9 การยกเลิกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เดิมเพื่อออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จัดเตรียมข้อความของใบกำกับภาษีที่ประสงค์ทำการยกเลิกขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยจัดให้มีข้อความว่า ยกเลิกในข้อมูลของใบกำกับภาษีนั้น และต้องระบุข้อความไว้ใน  ชื่อเรื่องของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ที่ทำการจัดส่ง เป็นข้อมูลประกอบด้วย “[วันเดือนปีที่ออกใบกำกับภาษี] [CIV] [เลขที่ใบกำกับภาษีเดิมที่ต้องการยกเลิก] (ข้อ 19)

     เมื่อดำเนินการยกเลิกขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จัดเตรียมข้อความของใบกำกับภาษีใหม่ขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และต้องระบุข้อความไว้ในชื่อเรื่องของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำการจัดส่ง เป็นข้อมูลประกอบด้วย “[วันเดือนปีที่ออกใบกำกับภาษี] [INV]       [เลขที่ใบกำกับภาษีใหม่] [เลขที่ใบกำกับภาษีเดิม]

     ให้นำความตามข้อ 3.2 ข้อ 3.3 และข้อ 3.5 มาใช้บังคับแก่โดยอนุโลม

3.10 ให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้รับอนุมัติให้จัดทำ ส่งมอบและเก็บรักษา ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่จัดทำและส่งมอบรายงานภาษีที่เกี่ยวข้องกับการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดทำขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด (ข้อ 20)

 

4. การเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

4.1 ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการที่ได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice by Email ต้องเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวไว้ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และถ้าได้เก็บรักษาในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าทได้มีการเก็บรักษาไว้ตามระเบียบกรมสรรพากรนี้แล้ว (ข้อ 21)

      4.1.1 ข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถเข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง และ

     4.1.2 ได้เก็บรักษาข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้นให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นอยู่ในขณะที่ได้รับข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้นจากระบบ e-Tax Invoice by Email และ

     4.1.3 ต้องเก็บรักษาข้อความส่วนที่ระบุถึงแหล่งกำเนิด ต้นทางที่สร้าง ส่ง จำนวนใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่ง วัน เดือน ปี และเวลาที่ส่ง หน่วยงานที่ส่ง และปลายทางของข้อมูล จำนวนใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลายทางได้รับ วัน เดือน ปี และเวลาที่ได้รับข้อมูล

 4.2 กรณีที่ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ รู้หรือควรได้รู้ว่ามีบุคคลอื่นใดใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ของตนซึ่งใช้ในการจัดทำและส่งมอบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบกรมสรรพากรนี้โดยมิชอบ หรือมีการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) ของตนโดยมิชอบ ให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้น แจ้งให้เจ้าพนักงานประเมินทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รู้หรือ ควรได้รู้เหตุแห่งการนั้น ตามวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด (ข้อ 22)

 

5. การเปลี่ยนแปลง การยกเลิก และการเพิกถอนการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

5.1 กรณีผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มีความประสงค์จะยกเลิกการใช้งานระบบ e-Tax Invoice by email ให้แจ้งยกเลิกตามวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด (ข้อ 23)

5.2 กรณีผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ถูกเพิกถอนการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากรจะทำการยกเลิกการใช้งานระบบ e-Tax Invoice by Email โดยทันที (ข้อ 24)

5.3 กรณีผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามข้อ 6 ให้ผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่มีสิทธิในการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบนี้ นับถัดจากแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากอธิบดีกรมสรรพากรเป็นต้นไป (ข้อ 25)

      กรณีผู้ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ปฏิบัติไม่ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบกรมสรรพากรนี้ และมิได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในกำหนดเวลา 60 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากกรมสรรพากร ให้ถือว่าผู้ประกอบการจดทะเบียนนั้นไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบกรมสรรพากรนี้เมื่อพ้น 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากอธิบดีกรมสรรพากรเป็นต้นไป